ภาษีนิติบุคคล 2567: สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องรู้
การวางแผนภาษีที่ดีคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2567 ที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านภาษีหลายประการ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เพื่อให้สามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามกฎหมาย
การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีนิติบุคคลในปี 2567
ในปี 2567 กรมสรรพากรได้มีการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลใหม่ โดยยังคงอัตราภาษีพื้นฐานที่ 20% สำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทั่วไป แต่มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกิจการ SMEs ดังนี้
- SMEs ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท:
- กำไรสุทธิ 0 - 300,000 บาท: ได้รับยกเว้นภาษี
- กำไรสุทธิ 300,001 - 3,000,000 บาท: เสียภาษี 15%
- กำไรสุทธิส่วนที่เกิน 3,000,000 บาทขึ้นไป: เสียภาษี 20%
นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนสำหรับธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ซึ่งจะได้รับการลดหย่อนภาษีเหลือ 15% เป็นระยะเวลา 3 รอบบัญชี
มาตรการใหม่ในการส่งเสริมการลงทุน
รัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่สำหรับปี 2567 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตของภาคธุรกิจ ได้แก่:
- มาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมดิจิทัล - บริษัทที่ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าของเงินลงทุนจริง
- มาตรการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา - บริษัทที่มีค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ถึง 2.5 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง
- มาตรการสนับสนุนธุรกิจสีเขียว - บริษัทที่ลงทุนในโครงการรักษาสิ่งแวดล้อมจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี
การเตรียมเอกสารและหลักฐานสำหรับการยื่นภาษี
การเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนและถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการยื่นภาษีนิติบุคคล เอกสารที่ต้องเตรียมประกอบด้วย:
- งบการเงินประจำปี ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแล้ว
- รายละเอียดประกอบงบการเงิน
- แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50)
- เอกสารประกอบการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
- หลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี (ถ้ามี)
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการยื่นภาษี
ข้อผิดพลาดในการยื่นภาษีอาจนำไปสู่การถูกตรวจสอบจากกรมสรรพากรและอาจต้องเสียค่าปรับเพิ่มเติม ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ได้แก่:
- การบันทึกค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์
- การไม่มีเอกสารหลักฐานประกอบรายการค่าใช้จ่าย
- การนำค่าใช้จ่ายส่วนตัวมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ
- การไม่บันทึกรายได้ให้ครบถ้วน
- การยื่นแบบแสดงรายการล่าช้า
บทสรุป
การวางแผนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่เพียงแค่การลดภาระภาษี แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายภาษี ที่ HASHTAX เราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในการวางแผนภาษีให้กับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนภาษีสำหรับธุรกิจของคุณ สามารถติดต่อ HASHTAX ได้ที่หน้า ติดต่อเรา หรือโทร 082-4747919